Categories:

เมื่อผู้ประกอบการได้จดทะเบียนเข้าสู่ระบบภาษีมูลค่าเพิ่มแล้ว  ผู้ประกอบการมีหน้าที่ ต้องทำอยู่ 3 อย่างคือ

1. ต้องออกใบกำกับภาษี เมื่อมีการขายหรือการให้บริการ

2. ต้องจัดทำรายงานภาษีมูลค่าเพิ่ม

3. ต้องยื่นแบบแสดงรายการภาษีมูลค่าเพิ่ม ภ.พ.30

แต่เรามักจะพบว่า แล้วเราควรจะออกใบกำกับภาษีเมื่อใด เพราะกิจการแต่ละประเภทธุรกิจ มีความแตกต่างกันในลักษณะขั้นตอนการดำเนินงาน จุดความรับผิดทางภาษีมูลค่าเพิ่ม(Tax Point) ก็แตกต่างกันไปด้วย พอจะจำแนกแนววิธีปฏิบัติของความรับผิดทางภาษีมูลค่าเพิ่มได้ประมาณ 4 แนวทาง คือ

               1.       ธุรกิจขายสินค้า
       1.1   การขายสินค้าทั่วไป

จุดความรับผิดชอบ(Tax Point)เกิดขึ้นเมื่อมีการส่งมอบสินค้า แต่หากมีการกระทำต่อไปนี้เกิดขึ้นก่อนการส่งมอบสินค้า ก็ให้จุดความรับผิดเกิดขึ้นทันทีที่มีการกระทำนั้น ๆ

ก.      การโอนกรรมสิทธิ์สินค้า

ข.      ได้รับชำระค่าสินค้า

ค.      ได้ออกใบกำกับภาษี

TAX POINT จุดรับผิดทางภาษี

 

1.2   การขายสินค้าตามสัญญาให้เช่าซื้อ / สัญญาซื้อขายผ่อนชำระ โดยที่กรรมสิทธิ์ในสินค้ายังไม่ได้โอนไปให้ผู้ซื้อ โดยผู้ซื้อได้รับมอบสินค้าไปแล้ว จุดความรับผิดในภาษีมูลค่าเพิ่ม(Tax Point) ให้เกิดขึ้นเมื่อถึงกำหนดชำระราคาตามงวดที่ถึงกำหนดในแต่ละงวด แม้ยังไม่ได้รับเงินค่างวด ยกเว้นหากมีการกระทำต่อไปนี้เกิดขึ้นก่อนถึงกำหนดชำระราคาในแต่ละงวด ก็ให้ถือว่าจุดความรับผิด เกิดขึ้นทันทีที่มีการกระทำนั้น ๆ

ก.      ได้รับชำระราคาสินค้า

ข.      ได้ออกใบกำกับภาษี

1.3   การขายสินค้า โดยมีการตั้งตัวแทนเพื่อขาย

 

https://youtu.be/SiGVryeVt7M

ในกรณีที่มีการแต่งตั้งตัวแทนเพื่อขายสินค้าและได้ส่งมอบสินค้าให้กับตัวแทนแล้วนั้น โดยที่ตัวแทนขายนั้นจะต้องได้รับการแต่งตั้งเพื่อขาย ตามประเภทของสินค้าและเป็นไปตามหลักเกณฑ์ตามที่รัฐมนตรีกำหนด  จุดความรับผิดทางภาษี(Tax Point)จะเกิดขึ้น ต่อเมื่อตัวแทนขายได้ส่งมอบสินค้าให้แก่ผู้ซื้อ เว้นแต่มีการกระทำต่อไปนี้เกิดขึ้น ก็ให้จุดความรับผิด(Tax Point)เกิดขึ้นทันทีที่มีการกระทำนั้น ๆ

 

ก.      ตัวแทนโอนกรรมสิทธิ์สินค้าให้ผู้ซื้อ

ข.      ตัวแทนได้รับชำระค่าสินค้า

 

ค.      ตัวแทนได้นำสินค้าไปใช้ โดยตัวแทนเองหรือคนอื่น

ง.       ได้ออกใบกำกับภาษี

 

 

1.4   การขายสินค้าโดยการส่งออก

 

ก.      การส่งออกสินค้า ให้จุดความรับผิด(Tax Point)เกิดขึ้นเมื่อ

–          มีการชำระอากรขาออก

–          มีการวางหลักประกันอากรขาออก

–          จัดให้มีผู้ค้ำประกันอากรขาออก

ข.      การส่งออกสินค้า ในกรณีที่นำสินค้าเข้าไปในเขตอุตสาหกรรมส่งออกให้ความรับผิด(Tax Point)เกิดขึ้นเมื่อ วันที่นำสินค้าเข้าไปในเขตอุตสาหกรรมส่งออก

ค.      การส่งออกสินค้าที่อยู่ในคลังสินค้าทัณฑ์บนของศุลกากร ให้จุดรับผิด(Tax Point)เกิดขึ้น พร้อมกับความรับผิดตามกฎหมายของกรมศุลกากร

 

 

1.5   การขายสินค้าที่เสียภาษีมูลค่าเพิ่มในอัตราร้อยละ 0 และภายหลังได้มีการโอนกรรมสิทธิ์ในสินค้าดังกล่าว อันทำให้ผู้รับโอนสินค้ามีหน้าที่ต้องเสียภาษีมูลค่าเพิ่มก็ให้ความรับผิด(Tax Point)เกิดขึ้นเมื่อมีการโอนกรรมสิทธิ์สินค้า

2.ธุรกิจให้บริการ

2.1 การให้บริการทั่วไป

จุดความรับผิด(Tax Point) เกิดขึ้นเมื่อได้มีการชำระราคาค่าบริการนั้น ๆ เว้นแต่มีการกระทำดังต่อไปนี้เกิดขึ้นก่อน ก็ให้จุดความรับผิด(Tax Point)นั้นเกิดขึ้นทันที ที่มีการกระทำนั้น ๆ

ก.      ได้ใช้บริการนั้น ๆ ด้วยตนเองหรือโดยคนอื่น

ข.      ได้ออกใบกำกับภาษี

2.2    การให้บริการตามสัญญาที่กำหนดค่าตอบแทนตามส่วนของการบริการนั้น ๆ จุดความรับผิด(Tax Point)ตามส่วนของบริการนั้น ๆ เกิดขึ้นเมื่อได้มีการชำระค่าบริการตามส่วนของบริการนั้น ๆ เมื่อการให้บริการนั้น ๆ ตามส่วนเสร็จสิ้นลง เว้นแต่มีการกระทำดังต่อไปนี้เกิดขึ้น ก็ให้ความรับผิด(Tax Point)เกิดขึ้นทันทีที่มีการกระทำนั้น ๆ

ก.      ได้ใช้บริการโดยตนเองหรือ คนอื่น

ข.      ได้ออกใบกำกับภาษี

2.3    การให้บริการที่ทำในต่างประเทศ แต่ได้มีการใช้บริการในประเทศไทยจุดความรับผิด(Tax Point)ทั้งหมดหรือบางส่วน เกิดขึ้นเมื่อมีการชำระราคาค่าบริการทั้งหมดหรือบางส่วน แล้วแต่กรณี

2.4    การให้บริการที่เสียภาษีมูลค่าเพิ่มในอัตราร้อยละ 0

ทั้งนี้ตามมาตรา 80/1 (5) และภายหลังได้มีการโอนกรรมสิทธิ์ในบริการอันทำให้ผู้รับโอนสิทธิ์ในบริการมีหน้าที่ต้องเสียภาษีมูลค่าเพิ่ม ตามมาตรา 82/1 (2) ให้ความรับผิด(Tax Point)ทั้งหมดเกิดขึ้นเมื่อได้รับชำระราคาค่าบริการ

2.5 การขายสินค้าหรือการให้บริการได้รับชำระด้วยเช็ค

        ในกรณีนี้ ให้จุดความรับผิด(Tax Point)เกิดขึ้น ตามวันที่ที่ปรากฏในเช็ค ผู้ประกอบการต้องออกใบกำกับภาษี และใบรับตามวันที่ในเช็ค

        แต่หากได้รับมอบเช็คลงวันที่ที่ผ่านมาแล้ว ก็ให้ผู้ประกอบการจัดทำใบกำกับภาษีและใบรับลงวันที่ตามวันที่ในเช็คนั้น ๆ ยกเว้นกรณีต่อไปนี้ ให้จัดทำใบกำกับภาษีและใบรับตามวันที่ได้รับมอบเช็คเท่านั้น

ก. กรณีรัฐบาล,องค์การของรัฐบาล,เทศบาล,สุขาภิบาล,อบต.,อบจ.

ข. กรณีผู้ออกเช็คเป็นบุคคลธรรมดา,บริษัท/ห้างหุ้นส่วนจำกัดหรือนิติบุคคลอื่น ซึ่งได้ออกเอกสารรับรองว่า ได้ส่งมอบเช็คในวัน เดือน ปี ใดและได้ส่งมอบเอกสารดังกล่าว ให้ในวันเดียวกันที่ส่งมอบเช็คนั้น และให้ผู้ประกอบการต้องมีเอกสารดังกล่าวพร้อมให้เจ้าหน้าที่สรรพากรตรวจสอบทันที

  1. การนำเข้าสินค้า

1.1 การนำเข้าสินค้าโดยทั่วไป ให้ความรับผิดชอบ(Tax Point)เกิดขึ้นเมื่อ

  • มีการชำระอากรขาเข้า
  • วางหลักประกันอากรขาเข้า
  • มีการจัดให้มีผู้ค้ำประกันอากรขาเข้า

เว้นแต่ไม่ต้องเสียอากรขาเข้า ก็ให้ถือว่าความรับผิด(Tax Point)เกิดขึ้นในวันที่มีการออกใบขนสินค้าของกรมศุลกากร

1.2 การนำเข้าสินค้าในราชอาณาจักร เข้าไปในเขตอุตสาหกรรมส่งออก แล้วนำสินค้าดังกล่าว ออกจากเขตฯ โดยมิใช่เพื่อการส่งออก ให้ความรับผิด(Tax Point)เกิดขึ้นในวันที่ได้มีการนำสินค้าออกจากเขตอุตสาหกรรม

1.3 การนำเข้า กรณีของตกค้างในกรมศุลกากร ให้จุดความรับผิด(Tax Point)เกิดขึ้นเมื่อทางราชการ ได้นำมาขายทอดตลาดหรือขายโดยวิธีอื่น เพื่อนำเงินมาชำระค่าภาษี ค่าเก็บรักษา ค่าขนย้าย ฯลฯ

1.4 การนำเข้าสินค้าที่ได้รับการยกเว้นอากรของกรมศุลกากร ซึ่งได้รับการยกเว้นภาษีมูลค่าเพิ่ม แต่หากภายหลังสินค้าดังกล่าว ต้องเสียอากรของกรมศุลกากรผู้รับโอนสินค้าดังกล่าว ต้องรับผิดภาษีมูลค่าเพิ่มด้วย โดยให้รับผิดพร้อม ๆ กับความรับผิด(Tax Point)ของกรมศุลกากร

4.การขายสินค้าหรือให้บริการอื่น

4.1 การขายสินค้าที่ไม่มีรูปร่าง เช่น สิทธิ์ในสิทธิบัตร,กู๊ดวิลส์,การขายสินค้าที่มีลักษณะทำนองเดียวกัน หรือสินค้าที่ไม่อาจกำหนดได้แน่นอนว่ามีการส่งมอบเมื่อใด ให้ความรับผิด(Tax Point)เกิดขึ้นเมื่อได้รับชำระราคาค่าสินค้า เว้นแต่มีการกระทำต่อไปนี้เกิดขึ้นก่อนก็ให้จุดความรับผิด(Tax Point)เกิดขึ้นทันทีที่มีการกระทำนั้น ๆ

ก. โอนกรรมสิทธิ์สินค้า

ข. ได้ออกใบกำกับภาษี

4.2 การขายกระแสไฟฟ้า น้ำประปา หรือสินค้าที่มีลักษณะทำนองเดียวกัน ให้จุดความรับผิด(Tax Point)เกิดขึ้นเมื่อได้ชำระค่าสินค้าหรือได้มีการออกใบกำกับภาษีก่อนการได้รับชำระราคาค่าสินค้า ก็ให้จุดรับผิด(Tax Point)เกิดขึ้นเมื่อได้ออกใบกำกับภาษี

4.3 การขายสินค้าหรือการให้บริการ ด้วยเครื่องอัตโนมัติ โดยการหยอดเหรียญ, หรือบัตรหรือการกระทำในลักษณะดังกล่าว ให้ความรับผิด(Tax Point)เกิดขึ้นเมื่อได้นำเงิน เหรียญ บัตร หรือสิ่งอื่น ๆ ในทำนองเดียวกันออกจากเครื่องอัตโนมัติ

4.4    การขายสินค้าโดยการชำระราคาด้วยการใช้บัตรเครดิต หรือในลักษณะทำนองเดียวกัน ให้ความรับผิดชอบ(Tax Point)เกิดขึ้นเมื่อส่งมอบสินค้า เว้นแต่มีการกระทำดังต่อไปนี้เกิดขึ้น ให้จุดรับผิด(Tax Point)เกิดขึ้นทันทีที่มีการกระทำนั้น ๆ

ก.      โอนกรรมสิทธิ์สินค้า

ข.      มีการออกหลักฐานการใช้บัตรเครดิต

ค.      ได้ออกใบกำกับภาษี

4.5  การขายสินค้าตามสัญญาจะขายสินค้า ให้ความรับผิด(Tax Point)เกิดขึ้นเมื่อมีการส่งมอบสินค้า เว้นแต่มีการกระทำดังต่อไปนี้เกิดขึ้นก่อนก็ให้จุดความรับผิด(Tax Point) เกิดขึ้นทันทีที่มีการกระทำนั้น ๆ

ก.      โอนกรรมสิทธิ์สินค้า

ข.      ได้รับชำระราคาค่าสินค้า

ค.      ได้ออกใบกำกับภาษี

4.6 เมื่อผู้ประกอบการได้นำสินค้าไปใช้โดยตนเองหรือผู้อื่น โดยมิใช่เพื่อการประกอบกิจการโดยตรง (ใช้ส่วนตัว) ให้จุดความรับผิด(Tax Point)เกิดขึ้นเมื่อได้มีการนำสินค้าไปใช้หรือส่งมอบให้คนอื่นไปใช้

4.7    ในกรณีสินค้าขาดหายจากรายงานสินค้าคงเหลือและวัตถุดิบ ให้จุดความรับผิด(Tax Point)เกิดขึ้นเมื่อตรวจพบ

4.8    ในกรณีผู้ประกอบการมีสินค้าคงเหลือ หรือทรัพย์สินที่ผู้ประกอบการมีไว้ในการประกอบกิจการ ณ วันเลิกประกอบกิจการ ให้ความรับผิด(Tax Point)เกิดขึ้นเมื่อเลิกประกอบกิจการหรือแจ้งเลิกประกอบกิจการ เว้นแต่ได้รับอนุญาตให้ออกใบกำกับภาษี,ใบเพิ่มหนี้,ใบลดหนี้ ต่อไปได้เป็นการชั่วคราวจนกว่าจะหยุดประกอบกิจการ ตามมาตรา 78

4.9    ในกรณีผู้ประกอบการมีสินค้าหรือทรัพย์สินที่ผู้ประกอบการมีไว้ในการประกอบกิจการ ณ วันที่มีคำสั่งถอนทะเบียนมูลค่าเพิ่มหรือ ณ วันที่ได้รับแจ้งการเพิกถอนทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม ให้จุดรับผิด(Tax Point)เกิดขึ้นเมื่อได้รับแจ้งคำสั่งถอนหรือได้รับแจ้งการเพิกถอนทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม เว้นแต่จะได้รับอนุญาตให้ออกใบกำกับภาษี,ใบเพิ่มหนี้,ใบลดหนี้ ต่อไปได้เป็นการชั่วคราว จนกว่าจะหยุดประกอบกิจการ ตามมาตรา 78

บทความโดย :  MichaelShaw
ที่มา  :  www.ThaiTaxINFO.com

Tags:

No responses yet

ใส่ความเห็น